วันที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจ ที่พระราชวังฤดูร้อน เที่ยวสนามกีฬารังนก แวะหวังฝูจิ่ง

ทางเข้าพระราชวังฤดูร้อน

วันนี้เราไปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนกันค่ะ ตื่นเช้ามาก็เดินไปขึ้นรถที่สถานีรถ

บัสใกล้โรงแรมค่ะ เป็นการเดินทางที่รู้สึกว่ายาวนานมาก เพราะเราขึ้นรถ

กันตั้งแต่ต้นทาง กว่าจะถึงพระราชวังฤดูร้อนก็หลับไปหลายตื่นเลย เนื่อง

จากว่ามันอยู่เกือบสถานีสุดท้ายน่ะสิ… ว่าแต่ว่า มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปเป็น

หลักฐานก่อนละกัน…แชะ!!!

พยากรณ์อากาศ

วันที่ 27 ตุลาคม 2010 อากาศวันนี้แจ่มใสค่ะ มีเมฆนิดหน่อย

แล้วก็หนาวด้วยสิ…

ประมาณการนักท่องเที่ยว

คาดว่าวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 22,000 คนค่ะ

ว่านโซ่วซาน

ด้านหลังคือภูเขาหมื่นปี (万寿山) 

ซูสีไทเฮา

ภาพของพระนางซูสีไทเฮา

 การแสดงในพระราชวังฤดูร้อน

มีการแสดงให้ชมด้วยค่ะ

 

สะพาน 17 โค้ง

 สะพาน 17 โค้ง

สะพาน 17 โค้ง และทะเลสาบคุนหมิง

เรือข้ามฟาก

ไปซื้อตั๋วขึ้นเรือมังกรข้ามฟากไปที่ภูเขาหมื่นปีกันค่ะ

เรือข้ามฟาก หัวเรือมังกร

บนเรือ

ภายในเรือ

 ภูเขาหมื่นปี

นี่แหละ ภูเขาหมื่นปี ข้างบนมีวัดด้วยล่ะ

 เรือคนโง่

ลงจากเรือข้ามฟากแล้ว ก็มาชมเรือหินอ่อน หรือเรียกอีกอย่างว่า

“เรือคนโง่” อันเลื่องชื่อค่ะ

长廊--ฉางหลาง

ระเบียงทางเดินอันสวยงาม (长廊--ฉางหลาง)

มองจากไกลๆ นึกว่าเป็นลวดลายซะอีก ที่แท้บันไดนี่เอง

ทางขึ้นเขาค่ะ ข้างบนมีวัดอยู่ด้วย และสามารถชมวิวได้

ทางขึ้นสูงมากๆเลย

บรรยากาศยามเย็น

บรรยากาศยามเย็น ณ พระราชวังฤดูร้อน

 ตลาดน้ำ

ภายในวัง มีตลาดน้ำด้วยล่ะ เรียกว่า ตลาดซูโจว

ปัจจุบันก็ยังมีการขายของที่ตลาดนี้ด้วย

อะแฮ่ม..ดูเด็กจีนแอ็คชั่นถ่ายรูปสิ

 ตลาดซูโจว ตลาดซูโจว ตลาดซูโจว

บรรยากาศของตลาดซูโจวยามเย็น

มาที่นี่แล้ว เหมือนเราได้ย้อนยุคไปในสมัยนั้นเลย…

ออกจากพระราชวังฤดูร้อน ก็ใกล้เวลาทีจะปิดทำการพอดี

(หลังจากที่เราเข้ามากันแต่เช้า…เดินคุ้มจริงๆ)

แล้วเราก็แวะซื้อมันเผาที่หน้าประตูวังค่ะ

ถ้ามาเมืองจีนก็อย่าลืมหาซื้อมันเผากินนะคะ อร่อยมากๆ เลย ขอย้ำ อิอิ

แล้วเราก็ไปสถานีรถไฟใต้ดินกันต่อ เพื่อเดินทางไปดูสนามกีฬารังนกค่ะ

สถานีรถไฟใต้ดิน

เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

วิธีซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินสแกนกระเป๋าด้วยแตะบัตรรอรถไฟค่ะ

การซื้อตั๋วรถไฟก็เหมือนเดิมค่ะ เราซื้อกับเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ

สแกนกระเป๋า แตะบัตรที่ทางเข้า แล้วก็รอรถค่ะ

สนามกีฬารังนก 

鸟操--เหนี่ยวเฉา

ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินก็โผล่มาที่นี่เลยค่ะ สนามกีฬารังนก เย้ๆ

ได้มาเห็นของจริงแล้ว ดีใจจัง

สระว่ายน้ำฟองน้ำสีสวย

ฟองน้ำ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬารังนก

ตึกมังกร--ปักกิ่ง

ถ่ายกับตึกมังกรค่ะ ด้านซ้ายคือส่วนหัว แล้ว 2 ตึกที่เห็นคือลำตัวค่ะ

ถ้าจะมาแวะชมสนามกีฬารังนก แนะนำให้มาตอนกลางคืนค่ะ

เพราะเค้าจะเปิดไฟสวยงาม แล้วก็ได้เห็นแสงสีของตึกต่างๆ

บริเวณรอบๆ สนามกีฬาด้วย

ถ้าใครไม่พกกล้องมาล่ะก็ เค้าก็มีบริการถ่ายภาพ รอรับได้เลยค่ะ

เดินเล่น ถ่ายภาพ และชื่นชมกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว

เราก็ใช้บริการรถไฟใต้ดินเช่นเดิม เพื่อเดินทางไปยัง หวังฝูจิ่ง

หลังจากครั้งก่อนได้เดินแค่แป๊ปเดียว

ร้านค้าต่างๆ ที่หวังฝูจิ่ง  มี KFC ด้วย มีร้านขายหมวกเก่าแก่ด้วย 盛锡福 แมงป่องตัวน้อย ปลาดาว และม้าน้ำ ซาวข่าว อาหารแปลกๆ ณ หวังฝูจิ่ง ผลไม้เชื่อมแพะย่างแสนอร่อย

บรรยากาศของหวังฝูจิ่ง

มีอาหารและของที่ระลึกต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อ

รวมถึงมีสินค้ายี่ห้อดังขายด้วย

ปล.ถ้าจะซื้อของที่ระลึกต่างๆ ก็อย่าลืมต่อรองราคาเท่าที่เราพอใจนะคะ

ถ้าเค้าไม่ลดก็ไม่ต้องเอา ให้เดินออกไปเลย

เพราะถ้าเค้าลดราคาให้ได้ ก็จะเรียกเรากลับมาเองค่ะ

อ้อ มาเดินหวังฝูจิ่ง เห็นเค้าขายซาลาเปาชื่อดังของเมืองเทียนจินด้วย

นั่นก็คือ ซาลาเปาหมาไม่สน อิอิ

ภาษาจีนเรียกว่า 狗不理包子 โก่วปู้หลี่เปาจึ (ชื่อนี้มีตำนานนะ)

ไอ้เราก็อยากลอง ทั้งที่ราคาก็แพงอยู่

ดูหน้าตาแล้ว ก็เหมือนซาลาเปาธรรมดาๆ นะ

แต่ที่นี่เค้าจะราดน้ำจิ้มให้ด้วย

ซื้อมากินถึงเข้าใจว่า ทำไมหมามันถึง… 555+

ไม่อร่อยเลยซักกะนิดเดียว ขี้เกียจถือ เลยโยนทิ้งอ่ะ

ซื้อซาลาเปาบ้านเรากินดีกว่าอีก อิอิ

(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นค่าประสบการณ์ละกัน

แต่ถ้าใครไปซื้อกินที่เทียนจินต้นตำรับก็อาจจะอร่อยก็ได้นะ

แล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ

วันที่ 8 กลับปักกิ่ง โดนทหารไล่ที่พระราชวังต้องห้าม



เรามาถึงสถานีปักกิ่งตะวันตก (北京西 běi jīng xī เป่ยจิงซี)ตั้งแต่เช้ามืด แล้วก็อาศัยพี่หลิว (เพื่อนคนจีนที่เจอบนรถไฟ) ให้ช่วยพาเราไปส่งขึ้นรถเมล์เพื่อไปตงจื๋อเหมิน พอมาถึงท่ารถเมล์ตงจื๋อเหมินแล้ว เราก็ต้องเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่อีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับโรงแรม...
กลับมาถึงห้องแล้ว เราก็ไม่รอช้า จัดการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากที่ไม่ได้อาบมาวันนึงแล้ว อิอิ นั่งพักกันสักครู่ แล้วก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อ







วันนี้เราตั้งใจว่าจะไปเที่ยวพระราชวังต้องห้าม (故宫 gù gōng กู้กง)กันโดยรถบัส ก็เลยเดินออกไปยังท่ารถ 120 ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม (แรกๆ ก็รู้สึกว่าไกล แต่พออยู่ไปหลายๆ วัน ก็รู้สึกว่าใกล้ๆ แล้ว) ขึ้นมาซื้อตั๋วบนรถราคา 1 หยวน บอกเค้าว่า ไปกู้กงค่ะ





   
โฮ่ๆๆๆๆ มาถึงประตูเทียนอันเหมินแล้วค่า เห็นรูปท่านเหมาเด่นเป็นสง่า รูปนี้เค้าจะเปลี่ยนทุกๆ วันชาติ (1 ตุลาคม) ค่ะ รูปที่เราเห็นนี้จึงเป็นรูปใหม่เอี่ยม เพราะเราไปที่นั่นปลายเดือนตุลาคม (นี่ขนาดไม่ได้มาวันเสาร์-อาทิตย์นะ คนเยอะมาก)










เข้ามาแล้ว ก็แวะซื้อตั๋ว และแผนที่ค่ะ


ถ่ายกับประตูไท่เหอ (太和门(tàihémén) ไท่เหอเหมิน)ค่ะ






เราเช่า Automatic Guide มาด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวกู้กงให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น








 


 
พระตำหนักไท่เหอ (太和殿 tài hé diàn ไท่เหอเตี้ยน) ตำหนักที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม เป็นที่ว่าราชการของจักรพรรดิ
ด้านข้างพระตำหนักมีนาฬิกาแดด รูปหล่อโลหะเต่า และนกกระเรียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและอายุยืน


ขณะที่เรากำลังชื่นชมกับความอลังการของพระตำหนักอยู่นั้นเอง ก็โดนทหารจีนไล่ลงมา เนื่องจากว่าจะมีบุคคลสำคัญมาทำอะไรสักอย่างที่นี่ ผู้ชมธรรมดาๆ อย่างพวกเรา จึงต้องเสียสละลงไปก่อน แล้วค่อยมาใหม่ เหอๆๆ


ห้ามเข้าคร้าบบบบ
ระหว่างนั้น พวกเราก็เซ็งเป็ดสุดๆ 555+ เลยแวะกินอาหารในวังก่อนค่ะ


ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปซะหน่อย


อ่างทองคำหนัก 2 ตัน มีอยู่ทั่วพระราชวัง เอาไว้เก็บน้ำเผื่อเกิดไฟไหม้


















หน้าตาอาหารในวังมื้อนี้
นั่งอยู่ในร้านอาหารพักนึง คาดว่าเค้าคงเปิดให้เข้าชมได้แล้ว เราก็แวะกลับไปที่พระตำหนักไท่เหออีกครั้งหนึ่ง (ถ้ามากับทัวร์ล่ะก็ คงไม่ได้แวะกลับไปแล้ว)

ภายในท้องพระโรงของพระตำหนักไท่เหอ




หลังคาพระตำหนักไท่เหอ มีรูปปั้นลูกมังกร 10 ตัว (จำนวนลูกมังกรขึ้นอยู่กับความสำคัญว่าเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิมากน้อยแค่ไหน ตำหนักไท่เหอ เป็นตำหนักที่มีรูปปั้นลูกมังกรมากที่สุด เพราะเป็นที่ว่าราชการของจักรพรรดิ)

บรรยากาศรอบๆ หลังคาเป็นสีเหลืองทั้งหมด ตัวอาคารเป็นสีแดง แสดงถึงทรัพย์ และอำนาจ


บันไดหินอ่อน 9 มังกร




正大光明 (zhèng dà guāng míng เจิ้ง ต้า กวาง หมิง-อ่านจากขวาไปซ้าย)  ข้างหลังป้ายนี้ เป็นที่เก็บพินัยกรรมของจักรพรรดิ มีรายชื่อของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป ..เป็นสถานที่สำคัญมากๆ..

ต้นสนคู่อายุ 400 ปี สัญลักษณ์ของความรักที่แนบแน่นและเป็นนิรันดร์ กษัตริย์ปูยีและพระมเหสีก็เคยมาฉายพระรูปที่นี่ด้วย




ศาลาในสวน 御花园 yù huā yuán ยวี่ฮวาเยวี๋ยน




ที่นี่มีต้นไม้แปลกๆ เต็มไปหมด

อาคารนี้มีลูกมังกรแค่ 3 ตัว





 ความสูงของอาคารที่ลดหลั่นกันลงมา




















บรรยากาศของพระราชวังต้องห้ามในยามเย็น

ออกมาแล้วก็เอา Automatic Guide ไปคืนค่ะ








ตอนออกจากวัง เห็นทหารกำลังฝึกซ้อมพอดี




 ออกมาแล้ว ก็เจอคุณลุงเค้าชวนไปนั่งรถสามล้อชมหูท่งกัน แต่ตอนแรกเค้าบอกราคาแพงมากๆ เลยจะไม่ไป ตกลงต่อไปต่อมา เหลือแค่ 30 หยวน ก็เลยไปกัน (รู้สึกสงสารเค้าเหมือนกันนะ เพราะเรานั่งรถกัน 3 คน คนปั่นก็ผ้อมผอม แถมยังบริการเราดีมากๆ อีกด้วย)


ออกเดินทางไปหูท่ง
















เค้าพาพวกเรามาดูบ้านแบบ 四合院 (sì hé yuàn ซื่อเหอเยวี่ยน) ที่โรงแรม 怡尔国际商务会馆 (yí ěr guó jì shāng wù huì guǎn) หรือ Beijing YiEr International Business Hotel ซึ่งได้รับรางวัลที่ 1 (ลืมแล้วว่ารางวัลอะไร แต่น่าจะเป็นโรงแรมที่อนุรักษ์สภาพบ้านแบบ 

四合院 ไว้ได้สมบูรณ์ที่สุดมั้ง)


บ้านแบบซื่อเหอเยวี่ยน คือ บ้านแบบโบราณของจีน ที่ปิดล้อมทั้ง 4 ด้าน ส่วนตรงกลางเป็นลานว่าง
ภาพประกอบการอธิบายจากกูเกิลค่ะ




แล้วก็พาไปสวนที่มีรูปปั้นของจักรพรรดิตั้งแต่องค์แรก จนถึงองค์สุดท้าย พร้อมบรรยายให้เราฟังเรียบร้อย รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง

 แล้วก็ไปถ่ายรูปกับประตูเทียนอันเหมินในบรรยากาศยามค่ำคืน

ที่สวยไปอีกแบบ



 (ฝั่งตรงข้ามกับประตูเทียนอันเหมินก็คือลานจตุรัสเทียนอันเหมิน 

(天安门广场 tiān ān mén guǎng chǎng)

ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานท่านเหมาเจ๋อตุงและอนุสาวรีย์วีรชน ส่วนบริเวณใกล้ๆ ก็คืออาคารมหาศาลาประชาคม และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนค่ะ)


ซ้ายสุดที่เห็นไฟอยู่ 2 ชั้น คือ สุสานประธานเหมา, เสาสูงๆ คืออนุสาวรีย์วีรชน ส่วนด้านขวาที่เป็นอาคารกว้างๆ คืออาคารมหาศาลาประชาคมค่ะ
จบการท่องเที่ยวในวันนี้ ก็แวะไปหารุ่นน้องที่เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง แล้วกลับที่พักกัน เพราะเดินจนขาลากสุดๆ 555+







ำศัพท์วันนี้


พระราชวังต้องห้าม    

故宫      gù gōng   กู้กง




ตรอกซอยเล็กๆ       

胡同       hú tòng   หูท่ง




บ้านแบบมีลานว่างตรงกลาง ล้อมรอบด้วยห้อง 4 ด้าน

四合院   sì hé  yuàn ซื่อ เหอ เยวี่ยน




จตุรัสเทียนอันเหมิน  

天安门广场 tiān ān mén guǎng chǎng
เทียน อัน เหมิน กว๋าง ฉ่าง




แพงจัง/แพงเกินไปแล้ว 

太贵了    tài guì le!    ไท่ กุ้ย เลอ



ลดราคาลงหน่อยเถอะ   

少一点吧   shǎo yì diǎn ba   เส่า อี เตี่ยน ปา
便宜点吧   pián yi diǎn ba   เผียน อี เตี่ยน ปา